มะเร็งปอดรู้เท่าทันภัยเงียบ ป้องกันได้ รักษาทัน
อัพเดทล่าสุด: 4 มิ.ย. 2025
33 ผู้เข้าชม
มะเร็งปอด คืออะไร?
มะเร็งปอด คือ การเกิดเซลล์ผิดปกติในปอดที่แบ่งตัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ จนก่อให้เกิดเนื้องอก หากไม่รักษาจะลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:
1. Non-small cell lung cancer (NSCLC): พบได้มากที่สุด (~85%)
2. Small cell lung cancer (SCLC): พบได้น้อยแต่แพร่กระจายเร็ว
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
1. การสูบบุหรี่: สาเหตุหลักของมะเร็งปอด โดยเฉพาะใน SCLC
2. ควันบุหรี่มือสอง: อันตรายพอ ๆ กับการสูบเอง
3. มลพิษทางอากาศ: รวมถึงฝุ่น PM2.5
4. สารเคมีอันตราย: เช่น แร่ใยหิน (Asbestos), ก๊าซเรดอน
5. ประวัติครอบครัว: มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
6. การติดเชื้อบางชนิด เช่น วัณโรค ซึ่งอาจทิ้งแผลเป็นในปอด
อาการที่ควรระวัง
ในระยะแรกของมะเร็งปอดมักไม่แสดงอาการชัดเจน แต่เมื่อเข้าสู่ระยะที่มากขึ้น อาจมีอาการดังนี้:
- ไอเรื้อรัง ไม่หายแม้รักษา
- ไอมีเลือดปน
- หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัย
- X-ray ปอด: ตรวจความผิดปกเบื้องต้น
- CT Scan / PET Scan: ตรวจอย่างละเอียด
- การส่องกล้องตรวจหลอดลม (Bronchoscopy): เพื่อนำชิ้นเนื้อมาตรวจ
- การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy): เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
แนวทางการรักษา
การรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
- การผ่าตัด: หากพบในระยะแรก
- เคมีบำบัด (Chemotherapy) และ รังสีบำบัด (Radiation Therapy)
- ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy): สำหรับผู้ที่มีการกลายพันธุ์เฉพาะ
- ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
การป้องกันมะเร็งปอด
- งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่
- หลีกเลี่ยงสารพิษ และใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่มีฝุ่น/มลพิษ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติความเสี่ยงสูง
แม้มะเร็งปอดจะเป็นโรคที่น่ากลัวและตรวจพบได้ยากในระยะแรก แต่หากเรารู้จักป้องกัน ใส่ใจสัญญาณเตือนของร่างกาย และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ก็สามารถลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะชีวิตคุณมีค่า เริ่มดูแลสุขภาพปอดของคุณตั้งแต่วันนี้
มะเร็งปอด คือ การเกิดเซลล์ผิดปกติในปอดที่แบ่งตัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ จนก่อให้เกิดเนื้องอก หากไม่รักษาจะลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:
1. Non-small cell lung cancer (NSCLC): พบได้มากที่สุด (~85%)
2. Small cell lung cancer (SCLC): พบได้น้อยแต่แพร่กระจายเร็ว
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
1. การสูบบุหรี่: สาเหตุหลักของมะเร็งปอด โดยเฉพาะใน SCLC
2. ควันบุหรี่มือสอง: อันตรายพอ ๆ กับการสูบเอง
3. มลพิษทางอากาศ: รวมถึงฝุ่น PM2.5
4. สารเคมีอันตราย: เช่น แร่ใยหิน (Asbestos), ก๊าซเรดอน
5. ประวัติครอบครัว: มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
6. การติดเชื้อบางชนิด เช่น วัณโรค ซึ่งอาจทิ้งแผลเป็นในปอด
อาการที่ควรระวัง
ในระยะแรกของมะเร็งปอดมักไม่แสดงอาการชัดเจน แต่เมื่อเข้าสู่ระยะที่มากขึ้น อาจมีอาการดังนี้:
- ไอเรื้อรัง ไม่หายแม้รักษา
- ไอมีเลือดปน
- หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัย
- X-ray ปอด: ตรวจความผิดปกเบื้องต้น
- CT Scan / PET Scan: ตรวจอย่างละเอียด
- การส่องกล้องตรวจหลอดลม (Bronchoscopy): เพื่อนำชิ้นเนื้อมาตรวจ
- การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy): เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
แนวทางการรักษา
การรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
- การผ่าตัด: หากพบในระยะแรก
- เคมีบำบัด (Chemotherapy) และ รังสีบำบัด (Radiation Therapy)
- ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy): สำหรับผู้ที่มีการกลายพันธุ์เฉพาะ
- ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
การป้องกันมะเร็งปอด
- งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่
- หลีกเลี่ยงสารพิษ และใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่มีฝุ่น/มลพิษ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติความเสี่ยงสูง
แม้มะเร็งปอดจะเป็นโรคที่น่ากลัวและตรวจพบได้ยากในระยะแรก แต่หากเรารู้จักป้องกัน ใส่ใจสัญญาณเตือนของร่างกาย และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ก็สามารถลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะชีวิตคุณมีค่า เริ่มดูแลสุขภาพปอดของคุณตั้งแต่วันนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 พ.ค. 2025
22 เม.ย. 2025