แยกให้ชัด! ไข้หวัดแต่ละแบบต่างกันยังไง

1. ไข้หวัดธรรมดา (Common Cold)

สาเหตุ: เกิดจากไวรัสหลายชนิด เช่น Rhinovirus, Coronavirus บางสายพันธุ์
อาการเด่น:
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- เจ็บคอเล็กน้อย
- ไอเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ไม่มีไข้สูง (มักไม่เกิน 38°C) ร่างกายยังคงทำงานได้ตามปกติ

ลักษณะเฉพาะ:
- มักหายเองใน 57 วัน ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ

2. ติดเชื้อโควิด-19 (COVID-19)

สาเหตุ: ไวรัส SARS-CoV-2
อาการเด่น:
- มีไข้ หรือรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
- ไอแห้ง เจ็บคอ
- เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก (ในบางราย)
- ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ
- อาจสูญเสียการรับกลิ่นหรือรส
- บางรายมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่

ลักษณะเฉพาะ:
- ควรตรวจยืนยันด้วย ชุดตรวจ ATK หรือ RT-PCR
- หากมีอาการมาก ควรพบแพทย์โดยเร็ว

3. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
สาเหตุ: ไวรัส Influenza type A หรือ B
อาการเด่น:
- ไข้สูงเฉียบพลัน (เกิน 38.5°C)
- หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะมาก
- ไอแห้ง เจ็บคอ
- เหนื่อย อ่อนเพลียมาก
- อาการรุนแรงกว่าหวัดทั่วไป

ลักษณะเฉพาะ:
- ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้มีโรคประจำตัวควรระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม

4. ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)
สาเหตุ: ไวรัส RSV พบมากในเด็กเล็ก
อาการเด่น:
- ไอมีเสมหะ แน่นจมูก หายใจมีเสียงดัง
- มีไข้ต่ำถึงปานกลาง
- หายใจเร็ว หอบ หรือมีเสียงวี้ด (wheezing)
- ในเด็กเล็กอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ

ลักษณะเฉพาะ:
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และผู้สูงอายุควรสังเกตอาการใกล้ชิด

ตรวจให้ชัวร์ ก่อนรักษาผิด!

หากมีอาการคล้ายไข้หวัดแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นชนิดใด
สามารถใช้ ชุดตรวจ เพื่อช่วยคัดกรองเบื้องต้นได้ เช่น

ชุดตรวจ COVID-19 (ATK) ใช้ตรวจจากโพรงจมูกหรือช่องปาก รู้ผลใน 15 นาที
ชุดตรวจไข้หวัดใหญ่ / RSV Combo Test ใช้แยกเชื้อไวรัสได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับเด็กและผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Oximeter) ช่วยติดตามภาวะพร่องออกซิเจนในผู้ป่วยโควิดหรือไข้หวัดใหญ่